5 วิธีรับมือ ลิฟต์ค้างอยู่ในคอนโด
ลิฟต์ค้าง ลิฟต์เสียกลางทาง หรือการติดอยู่ในลิฟต์ คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือคนรู้จักของเราแน่ๆ โดยเฉพาะตอนที่เราโดนสารลิฟต์ไปคนเดียว แต่ถ้าเกิดว่าเราอาศัยอยู่ในอาคารสูงแล้ว ก็มีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ได้ทุกเมื่อ
วันนี้เราลองมาศึกษากันครับว่า ถ้าเราต้องติดอยู่ในลิฟต์ที่ค้างอยู่ระหว่างทาง เราควรปฎิบัติตัวอย่างไร
1.ตั้งสติ
ในทุกสถานการณ์ฉุกเฉิน สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ตั้งสติ พยายามอย่างตื่นตระหนกตกใจ และพยายามหายใจเข้า-ออก ช้าๆ ลึกๆ ไม่หวั่นวิตกจนเกินไป เนื่องจากลิฟต์ส่วนใหญ่จะมีระบบความปลอดภัยสำรอง มีการระบายอากาศที่เพียงพอ และมีชุดไฟสำรองฉุกเฉิน
2. ใช้โทรศัพท์ให้เป็นประโยชน์
หากลิฟต์ที่คุณใช้ไม่มีระบบไฟฟ้าสำรองฉุกเฉิน ให้เปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือของคุณ แต่ห้ามใช้ไฟแช็กโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้ขาดออกซิเจนและขาดอากาศหายใจได้
โทรหรือพิมพ์ข้อความขอความช่วยเหลือ กับเจ้าหน้าที่นิติบุคคล ผู้ดูแลอาคาร เบอร์โทรฉุกเฉินที่แผงควบคุม หรือคนรู้จัก
ให้แจ้งว่า "มีผู้โดยสารกี่คน" มีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่ และ "ตอนนี้ลิฟต์อยู่ชั้นไหน" หากไม่ทราบให้บอกว่าเรากำลังขึ้นหรือลงมาจากชั้นไหน เพื่อให้คนที่มาช่วยเหลือสามารถรู้ตำแหน่งและช่วยได้เร็วขึ้น
ที่สำคัญอย่าใช้โทรศัพท์เกินความจำเป็น ควรประหยัดแบตเตอร์รี่เผื่อไว้กรณีฉุกเฉินด้วย
3.กดปุ่มฉุกเฉิน
ปุ่มฉุกเฉิน หรือ Emergency Call จะมีสัญลักษณ์ "รูปกระดิ่งหรือระฆัง" เพื่อส่งสัญญาณให้ภายนอกรับรู้ ให้ลองพยายามกดปุ่มฉุกเฉินดูเป็นระยะๆ
ในกรณีที่ปุ่มฉุกเฉินไม่สามารถใช้งานได้ ให้ใช้วิธีการตะโกนออกไปด้านนอก หรือทุบประตูลิฟต์เพื่อขอความช่วยเหลือจากภายนอก
4. ประหยัดอากาศให้มากที่สุด
หากลิฟต์ที่คุณค้างอยู่ ไม่มีไฟสำรอง พัดลมระบายอากาศไม่ทำงาน ก็จะทำให้อากาศภายในลิฟต์นั้นหมุนเวียนได้น้อย หากใส่เสื้อผ้าหนาๆให้ถอดออก เพื่อไม่ให้อากาศร้อนอบอ้าว คุณควรหายใจช้าๆ และพูดคุยให้น้อยที่สุด เพื่อเป็นการประหยัดออกซิเจนให้ได้มากที่สุด เพื่อรอการช่วยเหลือจากภายนอก
5. อย่านั่งหรือนอนในลิฟต์
เนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะลอยลงสู่ที่ต่ำ หากลิฟต์ค้างเป็นเวลานานๆ คุณควรพยายามไม่นั่งหรือนอนลงไปกับลิฟต์ เพราะจะทำคุณได้รับอากาศที่ไม่บริสุทธิ์เข้าไป อาจจะทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศรีษะ หรือหายใจติดขัดได้
ควรพยายามยืนชิดผนังลิฟต์ จับหรือเกาะราวลิฟต์ ระหว่างรอความช่วยเหลือ
สุดท้าย
หากทำตาม 5 ขั้นตอนแล้ว ก็พยายามอดทนรอครับ และพยายามขอความช่วยเหลือจากภายนอกให้ได้มากที่สุด ไม่ควรงัดแงะประตูลิฟต์ หรือปีนขึ้นบนเพดานลิฟต์เด็ดขาด เพื่อป้องกันลิฟต์วงจรไฟฟ้าเสีย แต่อาจจะทำให้การช่วยเหลือล้าช้าไปอีกครับ